เรื่อง เพื่อนผี
โจรป่า
ณ ตลาดท้ายหมู่บ้าน มีผู้คนเดินเลือกซื้ออาหารน้อยลงทุกที ผักที่นำมาขายก็ขายหมดตะกร้าแล้ว
“เรากลับบ้านกันดีกว่า
นี่ก็ใกล้จะมืดแล้ว”
แผ่นฟ้าที่เคยสดใสมีสีขาวสะอาดตาตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยสีดำสนิท
ท้องฟ้าคืนนี้ช่างสวยนัก ดวงดาวระยิบระยับอวดความงามของตัวเองให้ผู้คนเห็น
หมู่บ้านแห่งนี้ คือบ้านโคก
เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กมีประมาณร้อยหลังคาเรือน หมู่บ้านนี้อยู่ห่างไกลจากตัวเมือง
ในถิ่นชนบท ทุรกันดาร ติดท้องไร่ท้องนา ติดแม่น้ำลำคลอง
ทุกคนประกอบอาชีพค้าขายเป็นส่วนใหญ่เช่นเดียวกับตา
ที่ทุกวันต้องออกไปตัดไม้มาสานตะกร้า
“ทำไมถนนสายนี้น่ากลัวจังเลยมาลี
ไม่มีผู้คนสัญจรไปมา ฉันว่าเรารีบเดินดีกว่า”
“ฉันก็กลัวเหมือนกัน
เราวิ่งเลยดีกว่า”
“เอ๊ะ
อะไรหล่นอยู่ข้างหน้านะ”
“กระเป๋าเงินนี่นา”
“แล้วของใครมาทำตกไว้ตรงนี้
ตอนนี้ก็มืดมากแล้ว ดีเหมือนกันนะ ที่ฉันพบกระเป๋าเงินใบนี้ตกอยู่
เงินในนี้ก็มากอยู่เหมือนกัน คงใช้ได้อีกหลายวันนะมาลี”
“ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้นละ”มาลีถามด้วยความสงสัย
“ก็ฉันเห็นกระเป๋าเงินนี่
มันก็ต้องเป็นของฉันสิ”
“เธออย่าพูดแบบนั้นสิ
กระเป๋าเงินนี่ไม่ใช่ของเรา เราควรเอาไปคืนเจ้าของนะ
แล้วถ้าเธอทำกระเป๋าเงินหายบ้างละ เธอก็คงอยากได้เงินคืนเหมือนกัน”
“ก็จริงนะ ฉันขอโทษ
ฉันควรนำกระเป๋าใบนี้ไปคืนเจ้าของ
เราเอากระเป๋านี่ไปให้ผู้ใหญ่บ้านประกาศขายกันดีกว่า ป่ะ มาลีไปกัน”
“ฉันดีใจนะหนูบัว
ที่เธอเป็นเด็กดีแบบนี้”
ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินทางเพื่อนำกระเป๋าเงินไปคืน
กลับมีโจรป่าวิ่งพรวดพราดมาขวางทางเอาไว้ โจรป่าสองคนนี้ ใส่ชุดสีดำ
สวมหมวกโม่งสีดำคลุมหน้าเอาไว้ สวมรองเท้า ถุงมือสีดำอย่างรัดกุม คงเกรงว่าคนจะรู้ว่าเป็นใคร
“ส่งกระเป๋านั่นมา”
โจรทั้งสองกระชากเอากระเป๋าที่อยู่ในมือของหนูบัว
และผลักหนูบัว
“โอ้ย” หัวเข่าด้านซ้ายมีเลือดไหลซิบ ๆ
“เป็นยังไงบ้าง”
“ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกมาลี
กระเป๋าเงินใบนั้นถูกขโมยไปแล้ว แล้วเจ้าของกระเป๋าใบนั้น เขาจะตามหาไหมนะ”
“เราทำดีที่สุดแล้วนะหนูบัว
เราคงทำอะไรไม่ได้แล้ว กระเป๋าเงินถูกโจรขโมยไปแล้ว ฉันว่าเรารีบกลับบ้านกันดีกว่า
ป่านนี้ตาคงรอแย่แล้ว”
หนูบัวพลางเดินกึ่งวิ่ง
เพื่อให้ถึงกระท่อมเร็ว ๆ เพราะตอนนี้ก็มืดมากแล้ว ถนนก็มีเพียงความมืด
อาศัยเพียงแสงจันทร์ที่ให้แสงสว่าง ทางข้างหน้าก็คงถึงกระท่อมของหนูบัว
ป่านนี้ตาคงจะรออย่างเป็นห่วง
“หนูบัวมาแล้วจ้ะตา”
“ไปไหนมา
ทำไมถึงกลับมาเอาป่านนี้ รู้ไหมตาเป็นห่วงแค่ไหน ตาออกไปตามหาแต่ก็ไม่พบ”
“พอดีว่าหนูบัวเก็บกระเป๋าเงินได้
จึงเอาไปให้ผู้ใหญ่บ้านประกาศหาเจ้าของจ้ะตา”
“ทำไมไม่บอกไปละ
ว่ามีโจรมาปล้นระหว่างทาง”มาลีพูดแทรกขึ้น
“จะบอกตาได้ยังไง
แค่นี้ตาก็เป็นห่วงมากแล้ว ถ้าฉันบอกความจริง ต่อไปนี้ฉันคงไม่ได้ไปไหนอีก”
“มากินข้าวได้แล้วหลานตา”
“จ้ะตา”
“ตารู้ไหม
วันนี้หนูบัวขายผักหมดทุกกำเลย ได้เงินมาเยอะเลยจ้ะตา”
“เก่งมากลูก รีบกินข้าว
แล้วจะได้ไปอาบน้ำ วันนี้เหนื่อยมามากแล้ว”เสียงตากำชับ
บรรยากาศในตอนนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น
และรอยยิ้มของความสุข
“ตาจะดูแลหลานแบบนี้ตลอดไปนะ” ตาสอนพูดพึมพำในใจ
วรรณ นภา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น